13 ตรรกะกับพรรคแห่งความหวัง แต่กลับพังที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

เนื้อหาที่เธอกำลังจะอ่าน เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลและการแสดงออกความรู้สึกเกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย ขอย้ำว่าประชาธิปไตยไม่เคยต้องการความสามัคคี (ยกเว้นประเทศชาติเกิดภัยพิบัติหรือสงคราม) ประชาธิปไตยต้องการการยอมรับความเห็นที่หลากหลายและแตกต่าง เธอจะคิดยังไงแล้วแต่เธอ เธอจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแล้วแต่เธอ แต่เราต่างมีสิทธิ์ที่จะพูดและแสดงออกทางความคิดเห็น ถ้ารับข้อนี้ไม่ได้ มึงปิดแล้วไปไกลๆตีนกูค่ะ


เราเคยเชื่อในพรรคการเมืองนึง เชื่อว่าพวกเขาคือ "ความหวัง" ของการเมืองไทย แต่ยิ่งนานวัน ความศรัทธามันเปลี่ยนเป็นความขยะแขยง จากพรรคที่อ้างอุดมการณ์สวยหรู วันนี้เหลือเพียงกลุ่มก้อนทางการเมืองที่เล่นละครตบตาประชาชน

เก่งแต่สร้างวาทกรรม แต่การกระทำโคตรย้อนแย้ง 

นี่คือ 13 ความจริงที่น่าสะอิดสะเอียน ที่อยากให้ "ด้อม" หรือผู้สนับสนุนลองเปิดใจอ่าน แล้วถามตัวเองว่า...

มึงกำลังโดนหลอกใช้หรือเปล่า?


1. ตรรกะเห็นแก่ตัว: "รอ 10 เดือน" ให้ประเทศชิบหาย

ความคิดที่จะให้ประเทศว่างเว้นจากการมีรัฐบาลถึง 10 เดือน เพียงเพื่อรอให้ สว. หมดวาระ แล้วตัวเองจะได้เป็นนายกฯ เป็นความคิดที่ "อำมหิต" และ "เห็นแก่ตัว" ที่สุด ประเทศไม่ใช่ของเล่น ประชาชนต้องกินต้องใช้ เศรษฐกิจรอไม่ได้ การยอมให้ประเทศหยุดชะงักเพียงเพื่อสนองตัณหาอำนาจของพรรคเดียว คือความพินาศด่านแรกที่น่ารังเกียจ

2. สร้างนิยาย "นางแบก-นางร้าย" โยนขี้ให้เพื่อไทย

ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองไปต่อไม่ได้เพราะติดล็อก สว. (ซึ่งเป็นกติกาที่รู้อยู่แล้ว) แต่กลับเลือกที่จะไม่ถอย ไม่หาทางออก แต่หันมาสร้างสตอรี่ว่า "เพื่อไทยตระบัดสัตย์" ปุกปั่นให้คนเกลียดชังพรรคอันดับสองที่พยายามตั้งรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศ กลายเป็นว่าใครแก้ปัญหาคือ "คนเลว" แต่คนที่ไม่ยอมทำอะไรเลยนอกจากด่า คือ "พระเอก" งั้นหรือ?

3. สาวก "ซอมบี้สีส้ม" คลั่งไคล้จนไร้สติ

ผู้สนับสนุนบางกลุ่มมีพฤติกรรมไม่ต่างจากลัทธิคลั่งศาสนา หรือติ่งดาราเกาหลีที่แตะต้องไม่ได้ ใครเห็นต่างคือ "โง่" คือ "สลิ่ม" คือ "แบก" มองข้ามเหตุผลและข้อเท็จจริง บูชาตัวบุคคลจนลืมไปว่าการเมืองคือเรื่องของ "ปากท้อง" ไม่ใช่การกรี๊ดโอปป้าหน้าสภา

4. มาตรฐานจริยธรรมที่ "เน่าหนอน" (งูเห่า + คุกคามทางเพศ)

พร่ำสอนเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชน แต่คนในพรรคกลับมีข่าวฉาวเรื่อง "การคุกคามทางเพศ" ไม่รู้กี่เคส ต่อกี่เคส จัดการปัญหาภายในไม่ได้ แถม สส. ในพรรคยังทยอยกลายเป็น "งูเห่า" ย้ายหนีตายกันเพียบ ถามจริง... ถ้าบ้านตัวเองยังดูแลให้ดีไม่ได้ จะมาดูแลประเทศได้ยังไง? หันมองกระจกบ้างเถอะ

5. ดราม่าทักษิณ: ปากกล้าขาสั่น

ตอนหาเสียงด่ากราดเรื่องความยุติธรรม ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แต่พอถึงเวลาทักษิณกลับไทย หรือมีประเด็นทางกฎหมายที่ละเอียดอ่อน กลับแสดงท่าที "แทงกั๊ก" หรือเล่นละครตบตา ไม่มีความชัดเจนเหมือนที่เคยตะโกนบนเวที สรุปคือเก่งแต่กับคนที่ไม่มีทางสู้ใช่ไหม?

6. ปั่นกระแส "ชาติ" จนพัง (เคสเกาะกูด/กัมพูชา)

แทนที่จะช่วยกันรักษาผลประโยชน์ชาติ กลับเลือกหยิบประเด็นละเอียดอ่อนอย่าง MOU44 หรือเรื่องกัมพูชามาปั่นกระแสโจมตีรัฐบาลจนเกินเบอร์ หวังผลแค่ให้รัฐบาลล้ม โดยไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือข้อเท็จจริง สรุปคือ "ยอมให้ชาติพัง ดีกว่าเห็นฝั่งตรงข้ามได้ดี"

7. ย้อนแย้งเรื่อง "เสียงข้างมาก" (กรณีโหวตนายกฯ)

ปากบอกเคารพเสียงประชาชน แต่เคยมีพฤติกรรมหรือแนวคิดที่จะไปโหวตให้คนที่มีเสียงน้อยกว่า (เช่น อนุทิน หรือคนอื่นในฝ่ายค้านเดิม) เพียงเพื่อจะล้มเพื่อไทยที่มีเสียง 10 กว่าล้านเสียง ตรรกะประชาธิปไตยแบบไหนที่เลือกคนเสียงน้อยมาขี่คนเสียงมาก? ทุเรศสิ้นดี

8. เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง (กับภูมิใจไทย)

ด่า "อนุทิน" ด่า "กัญชา" สาดเสียเทเสียตอนหาเสียง แต่พอมาเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน กลับทำตัวหนุงหนิง แบกรับกันในสภาเหมือนเพื่อนซี้ ลืมไปแล้วเหรอว่าด่าเขาไว้ว่ายังไง? หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ศัตรูก็คือมิตรได้ หน้าไหว้หลังหลอกที่สุด

9. "ดีลลับ" กินข้าวกับศัตรู แต่อ้าง "คุยเรื่องงาน"

เที่ยวชี้หน้าด่าพรรคอื่นว่ามีดีลลับ มีข้อตกลงสกปรก แต่พรรคตัวเองแอบไปกินข้าว ไปคุยกับพรรคอื่น พอโดนจับได้ก็อ้างหน้าด้านๆ ว่า "คุยเรื่องสแกมเมอร์" "คุยเรื่องประเทศชาติ" ใครเชื่อก็ควายแล้ว นี่มันตรรกะวิบัติของคนที่ไม่ยอมรับความจริง

10. ผูกขาดคำว่า "ประชาธิปไตย" ไว้ที่ตัวเอง

นี่คือความเลวร้ายทางความคิดที่สุด สร้างค่านิยมผิดๆ ว่า "ถ้าไม่เลือกเรา = เผด็จการ" "ถ้าไม่เลือกเรา = ผิด" ทั้งที่ประชาธิปไตยคือความหลากหลาย คือการประนีประนอม แต่พรรคนี้กลับสร้างความเกลียดชัง แบ่งแยกประชาชนเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน เพื่อหล่อเลี้ยงคะแนนเสียงตัวเอง

11. พรรค "คอนเทนต์" ผลงาน 0 คะแนน

เก่งกราฟิก เก่งทำคลิปไวรัล เก่งแซะในทวิตเตอร์ (X) แต่ในโลกความจริง ผลงานบริหารที่จับต้องได้คืออะไร? กฎหมายที่เปลี่ยนชีวิตประชาชนจริงๆ อยู่ไหน? วันๆ เอาแต่เล่นเกมในสภาเพื่อเอาฟุตเทจไปตัดลง TikTok หลอกเด็ก สร้างภาพสวยหรู แต่ข้างในกลวงโบ๋

12. ขอทานออนไลน์: ด่าคนอื่นรับเงิน แต่ตัวเองเปิดรับบริจาค

โจมตีระบบอุปถัมภ์ โจมตีทุนใหญ่ แต่พรรคตัวเองก็ระดมทุน ขอเงินบริจาคจากประชาชนตาดำๆ ตลอดเวลา อ้างว่าเป็นการเมืองภาคประชาชน แต่ความจริงคือการหากินกับความศรัทธา โดยที่คนจ่ายเงินแทบตรวจสอบไม่ได้ว่าเงินไปไหนหมด

13. "ทาสการตลาด" บทสรุปที่น่าเศร้าที่สุด

ข้อสุดท้ายคือสิ่งที่น่าเสียใจที่สุด... ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ กลายเป็นเหยื่อการตลาดทางการเมืองที่ซับซ้อน ถูกปั่นหัวด้วยข้อมูลด้านเดียว ถูกปลุกปั่นด้วยความเกลียดชัง จนกลายเป็นเครื่องมือให้พรรคการเมืองนี้ใช้เดินเกมสู่อำนาจ โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า "กำลังถูกหลอกใช้"

ลิกหลอกตัวเองเถอะ เลิกโทษกติกา เลิกโทษคนอื่น แล้วหันมาดูความเน่าเฟะ ความย้อนแย้ง และความ "ปากว่าตาขยิบ" ของพรรคที่คุณเชียร์ ประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่การคลั่งไคล้พรรคใดพรรคหนึ่งจนไม่ลืมหูลืมตา แต่มันคือการมองเห็นความจริงว่า

ใครกันแน่ที่ทำเพื่อประเทศ ใครกันแน่ที่ทำเพื่อคอนเทนต์ของตัวเอง

Aam Anusorn Soisa-ngim

Aam Anusorn is an independent filmmaker and storyteller with a decade of experience in the industry. As the founder and CEO of Commetive By Aam, he has directed and produced several acclaimed films and series, including the popular "Till The World Ends" and "#2moons2." Known for his creative vision and determination, Aam prefers crafting original stories that push the boundaries of traditional genres, particularly in the BL and LGBTQ+ spaces. Despite the challenges and pressures of working in a competitive field, Aam’s passion for storytelling drives him to explore new ideas and bring unique narratives to life. His work has garnered recognition and support from prestigious platforms, including the Tokyo Gap Financial Market. Aam continues to inspire audiences with his innovative approach to filmmaking, always staying true to his belief in the power of original, heartfelt stories.

https://Commetivebyaam.com
Previous
Previous

ตำนานตัวแม่! 🥊 Christina Aguilera ปะทะ P!nk: จากแย่งท่อนร้อง สู่ดราม่า "เหวี่ยงหมัด" กลางผับ!

Next
Next

10 สุดยอดสมาร์ทโฟนปี 2025 สเปกเทพ ราคาไม่ถึง 5,000