ดราม่าหนักมาก เกิดอะไรขึ้นกับ Sydney Sweeney?

โฆษณายีนส์ที่ไม่ได้พูดถึงแค่ “ยีนส์”

Sydney Sweeney นักแสดงสาวชื่อดังจากซีรีส์ Euphoria และ White Lotus กลายเป็นประเด็นดราม่าครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ หลังจากเธอร่วมแคมเปญโฆษณาของแบรนด์ American Eagle ภายใต้คำโปรยว่า

“Sydney Sweeney Has Great Jeans”

ดูเผิน ๆ เหมือนแค่เล่นคำระหว่าง “jeans” (กางเกงยีนส์) กับ “genes” (ยีนพันธุกรรม) แต่ปัญหาอยู่ตรงที่…

บางคนมองว่าสโลแกนนี้จงใจเล่นกับคำว่า genes เพื่อชี้ให้เห็นว่าเธอ “มีพันธุกรรมที่ดี” โดยเฉพาะเมื่อเธอเป็นผู้หญิงผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ผิวขาว ลักษณะทางกายภาพที่เคยถูกยกย่องในอดีตว่าเป็น “ยีนดี” ของอุดมคติแบบตะวันตก

จากจุดนี้เอง ดราม่าก็เริ่มลุกลาม เมื่อผู้คนเริ่มตั้งคำถามว่า

“โฆษณานี้กำลังสื่อสนับสนุนแนวคิดเหยียดเชื้อชาติหรือเปล่า?”

ประเด็นทางการเมืองยิ่งทำให้ไฟลุก

หลังจากนั้นไม่นาน ชาวเน็ตขุดข้อมูลว่า Sydney Sweeney ลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในนามพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่สนับสนุนนโยบายของ Donald Trump และถูกวิจารณ์ว่ามีแนวคิดอนุรักษ์นิยมที่ค่อนข้างแรงในเรื่องผู้อพยพ สิทธิสตรี และคนหลากหลายทางเพศ

แม้ว่า Sweeney จะยังไม่เคยแสดงจุดยืนทางการเมืองชัดเจน แต่การที่เธอลงทะเบียนในนามพรรคนั้น ก็เพียงพอให้ผู้คนบางกลุ่มกล่าวหาว่า

“เธอสนับสนุนอุดมการณ์ฝ่ายขวา และอาจเห็นด้วยกับแนวคิดที่กดขี่คนชายขอบ”

แล้วคนไทยควรรู้สึกยังไง?

บางคนในไทยอาจรู้สึกว่าเรื่องนี้ “ดูเวอร์เกินไป” หรือ “อินกับสีผิวเกินเหตุ” เพราะในบริบทไทย เราอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่า “genes” เท่ากับแค่เป็นคำเล่นเสียงธรรมดา ๆ

แต่ในอเมริกา ประวัติศาสตร์เรื่อง การคัดเลือกพันธุกรรม (eugenics) และ การเหยียดสีผิว เป็นเรื่องอ่อนไหวมาก และหลายคนยังเจ็บปวดกับอดีตที่คนผิวขาวถูกมองว่าสูงกว่าคนเชื้อชาติอื่น

แคมเปญที่ดูเหมือนจะ “เล่นคำ” แบบขำ ๆ จึงกลายเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมาทันที

นี่เป็นการทำร้ายจิตวิญญาณความเป็นหญิงมั้ย?

ในอีกมุมหนึ่ง ผู้สนับสนุน Sydney Sweeney มองว่า เธอกำลังโดนบูลลี่เพียงเพราะเธอ “หน้าตาดี” และ “ไม่แสดงออกทางการเมืองแบบที่คนคาดหวัง”

หลายคนถามว่า

“ถ้าเธอเป็นผู้ชาย หรือถ้าเธอไม่ใช่คนดังผิวขาว จะโดนโจมตีแบบนี้ไหม?”

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นคำถามใหญ่ในวัฒนธรรมยุคปัจจุบันว่า การแสดงความคิดเห็นหรือความเงียบของดารา มีสิทธิ์แค่ไหน และต้องรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์ในสังคมหรือไม่

หรือทั้งหมดนี้…คือแผนการตลาด?

อย่าลืมว่าแคมเปญนี้ของ American Eagle ทำรายได้ถล่มทลายกว่า 400 ล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมงแรก และการที่คนพูดถึงมันอย่างดุเดือด — ก็อาจจะเป็น “ไวรัล” ที่แบรนด์ตั้งใจให้เกิดขึ้นก็ได้

บางคนบอกว่า นี่อาจเป็นหนึ่งในแผนการตลาดที่ “ร้ายกาจแต่ได้ผล” ที่สุดในปีนี้

สรุป: โลกมันซับซ้อนกว่าที่คิด

สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Sydney Sweeney ไม่ใช่แค่เรื่องของโฆษณาหรือพรรคการเมือง แต่มันคือปรากฏการณ์ที่สะท้อนสังคมที่ทุกอย่างถูกตีความผ่านเลนส์ของอัตลักษณ์ สีผิว เพศ และพฤติกรรมทางสังคม ดาราไม่ได้เป็นแค่คนดังอีกต่อไป — พวกเขากลายเป็นตัวแทนของอุดมการณ์บางอย่างโดยอัตโนมัติ

แค่ใส่ยีนส์สวย ๆ คนก็อาจตีความว่าคุณกำลังเหยียดคนอื่น แค่เงียบ ไม่พูดอะไร ก็อาจโดนหาว่าสนับสนุนสิ่งผิด

โลกสมัยนี้ไม่ได้มีพื้นที่ให้ “อยู่เฉย ๆ” อีกแล้ว เพราะแม้แต่ความเงียบ ก็กลายเป็นเสียงหนึ่งเสมอ

แล้วคุณล่ะ—ยังกล้าใส่กางเกงยีนส์ตัวเดิมอยู่ไหม? หรือคุณกำลังคิดว่า… “ชีวิตนี้มันต้องระวังทุกอย่างขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”

Aam Anusorn Soisa-ngim

Aam Anusorn is an independent filmmaker and storyteller with a decade of experience in the industry. As the founder and CEO of Commetive By Aam, he has directed and produced several acclaimed films and series, including the popular "Till The World Ends" and "#2moons2." Known for his creative vision and determination, Aam prefers crafting original stories that push the boundaries of traditional genres, particularly in the BL and LGBTQ+ spaces. Despite the challenges and pressures of working in a competitive field, Aam’s passion for storytelling drives him to explore new ideas and bring unique narratives to life. His work has garnered recognition and support from prestigious platforms, including the Tokyo Gap Financial Market. Aam continues to inspire audiences with his innovative approach to filmmaking, always staying true to his belief in the power of original, heartfelt stories.

https://Commetivebyaam.com
Previous
Previous

จะปั้นช่องให้ดัง ลิสต์อุปกรณ์ที่เหล่าครีเอเตอร์ต้องมี

Next
Next

ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ: อินเตอร์เน็ต ‘ไม่ปลอดภัย’ อีกต่อไป