Apple Event 2025 เปิดตัว iPhone 17, iPhone Air สุดบางเฉียบ พร้อม AirPods Pro 3, Apple Watch 11 และ iOS 26
กลับมาสร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการเทคโนโลยีอีกครั้ง กับงาน Apple Event 2025 ที่จัดขึ้นภายใต้ธีม “Awe Dropping” ซึ่งก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง Apple ได้ทำการรีเฟรชไลน์อัปผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ ชูจุดเด่นด้านดีไซน์ที่บางและเบายิ่งขึ้น แต่ยังคงอัดแน่นด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลัง พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราอย่างสมบูรณ์
สรุปทุกไฮไลท์สำคัญ ทั้งสเปค ราคา และวันวางจำหน่ายของทุกผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในงาน
ไฮไลท์เด่น: iPhone 17 Series และการมาถึงของ iPhone Air
ปีนี้ Apple ได้จัดทัพสมาร์ทโฟนใหม่ทั้งหมด 4 รุ่น โดยมีสมาชิกใหม่อย่าง iPhone Air เข้ามาสร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ
iPhone 17: อัปเกรดมาตรฐานใหม่
สำหรับ iPhone 17 รุ่นเริ่มต้น ถือเป็นการยกระดับครั้งสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปได้สัมผัสฟีเจอร์ระดับโปรมากขึ้น
หน้าจอ: ขยับขนาดเป็น 6.3 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี ProMotion 120Hz เป็นครั้งแรกในรุ่นมาตรฐาน ทำให้การใช้งานลื่นไหลกว่าที่เคย
ชิปประมวลผล: A19 Bionic รุ่นใหม่ ที่เน้นประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน
กล้อง: กล้องหลังคู่ 48MP Dual Fusion ที่รวมแสงและรายละเอียดได้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด และกล้องหน้า 18MP ที่รองรับ Center Stage ทำให้วิดีโอคอลคมชัดและจัดองค์ประกอบได้อัตโนมัติ
ความจุ: เริ่มต้นที่ 256GB เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปโดยไม่ต้องกังวล
iPhone Air: นิยามใหม่ของความบางเบาและทรงพลัง
นี่คือดาวเด่นของงานอย่างแท้จริง iPhone Air ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสมาร์ทโฟนที่บางและเบาที่สุดเท่าที่ Apple เคยสร้างมา
ดีไซน์: ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 5.6 มม. ใช้โครงสร้างไทเทเนียมที่แข็งแรงแต่น้ำหนักเบา
หน้าจอ: ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม ProMotion 120Hz
ชิปประมวลผล: อัปเกรดเป็น A19 Pro เทียบเท่ารุ่นโปร
การเชื่อมต่อ: ก้าวสู่โลกไร้ซิมการ์ดอย่างเต็มตัวด้วย eSIM Only และมาพร้อมชิป N1 กับ C1X เพื่อการเชื่อมต่อเครือข่ายและ Wi-Fi ที่เสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น
iPhone 17 Pro และ Pro Max: ที่สุดแห่งพลังและนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพ
สำหรับผู้ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด iPhone 17 Pro และ Pro Max ยังคงเป็นคำตอบสุดท้าย โดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพระดับสูงสุดและเทคโนโลยีกล้องที่ล้ำหน้า
ชิปประมวลผล: A19 Pro ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ช่วยให้ชิปทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับเกมเมอร์และครีเอเตอร์
กล้อง: ระบบกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP ทุกเลนส์ Apple เคลมว่าให้คุณภาพเทียบเท่า "การมี 8 เลนส์ระดับโปรในเครื่องเดียว"
การซูม: iPhone 17 Pro Max สร้างความแตกต่างด้วยความสามารถในการ ซูมออปติคัลสูงสุดถึง 8 เท่า
เสริมทัพ Ecosystem: AirPods, Apple Watch และ iOS 26
นอกเหนือจาก iPhone แล้ว Apple ยังได้อัปเกรดอุปกรณ์เสริมและระบบปฏิบัติการเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้สมบูรณ์
AirPods Pro 3: หูฟังที่ 'ฟัง' ได้มากกว่าเสียงเพลง
หูฟังไร้สายรุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะที่น่าสนใจ
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): Apple อ้างว่าเป็น "เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในโลก"
ฟีเจอร์สุขภาพ: เพิ่มเซ็นเซอร์ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ฟีเจอร์อัจฉริยะ: รองรับการ แปลภาษาสดแบบเรียลไทม์
ความทนทาน: มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP57
ราคาและวันวางจำหน่าย: ราคาเปิดตัว $249 (ประมาณ 9,200 บาท) เริ่มจำหน่าย 19 กันยายน
Apple Watch Series 11, SE 3 และ Ultra 3: เจาะลึกสุขภาพและความปลอดภัย
ฟีเจอร์ใหม่: การ แจ้งเตือนความดันโลหิต (รอการอนุมัติจาก FDA ในบางประเทศ) และ การเชื่อมต่อดาวเทียมโดยตรง เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
ราคา: ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ SE 3 ราคา $249 ไปจนถึง Ultra 3 ราคา $799
iOS 26: ประสบการณ์ใหม่กับดีไซน์ 'Liquid Glass'
ดีไซน์ใหม่: เปิดตัว UI แบบ "Liquid Glass" ที่ให้ความรู้สึกโปร่งใส มีมิติ และตอบสนองต่อการสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟีเจอร์ใหม่:
Messages: เพิ่มการสร้างโพล, เปลี่ยนพื้นหลังแชท และสติกเกอร์แบบใหม่
แอป Games: ศูนย์รวมเกมและความบันเทิงที่เชื่อมต่อกับ Apple Arcade
วันปล่อยอัปเดต: พร้อมให้อัปเดตในวันที่ 15 กันยายน
ก้าวต่อไปของ Apple ในปี 2025
งาน Apple Event "Awe Dropping" ไม่ใช่แค่การอัปเกรดสเปคประจำปี แต่เป็นการปรับวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า Apple กำลังมุ่งหน้าไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ "บาง เบา และทรงพลัง" อย่างแท้จริง พร้อมทั้งผสานนวัตกรรมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เข้าด้วยกันอย่างแนบเนียนเพื่อสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น