ฟาด J.K. Rowling สวนกลับ Emma Watson แบบไม่อ้อมค้อม หลังเงียบมานานหลายปี

J.K. Rowling ฟาด Emma Watson หลังจากเงียบมานานหลายปี บอกเลยว่าแต่ละประโยคที่เธอเขียนออกมาสมกับเป็นนักเขียนนิยายมากๆเพราะภาษาสวยมากแต่ถ้าอ่านจริงๆก็ฟาดแรงมากเช่นกัน…

เธอบอกว่า

“มีอยู่สองสามอย่างที่ชั้นอยากพูดนะ ก่อนอื่นนะ ชั้นไม่ได้ต้องการให้บรรดานักแสดงที่เคยเล่นใน “ตัวละครที่ชั้นสร้างมากับมือ“ ต้องมายอมรับทุกๆแนวคิดหรือทัศนคติของชั้นตลอดชีวิตเพราะพวกมันควรสำนึกบุญคุณชั้นอะไรทำนองนั้น โดยเฉพาะเอ็มมา วัตสัน หรือคนอื่นๆอย่างแดนเนียล พวกแกมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเชื่อเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศในแบบของพวกแกเชื่อ แต่ที่ติดอยู่ในใจคือทั้งเอ็มมาและแดน สองคนนี้ มักทำตัวเหมือนคิดว่าการที่เราเคยร่วมงานกันมาก่อน ทำให้พวกมันมีสิทธิ์หรือหน้าที่ในการออกมาวิจารณ์หรือดูถูกชั้นต่อสาธารณะให้โลกรู้

ชั้นไม่เกทค่ะ หลายปีหลังจากที่พวกมันเล่นหนังจบไปแล้ว งานพวกแกจบแล้ว ทำไมกลับทำตัวเหมือนโฆษกประจำโลกเวทมนตร์ เป็นตัวละครที่ชั้นสร้างขึ้น ตอนแรกที่ชั้นโดนด่าจากมันที่มันว่าชั้นออกไปให้คนทั้งโลกฟัง เอาตรงตรงเลยนะ ชั้นเห็นมันตั้งแต่เด็กอายุสิบขวบ ใจลึกๆอดรู้สึกห่วงไม่ได้เวลาเห็นข่าวอะไรไม่ดี ทั้งๆที่โกรธ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เลี่ยงจะไม่พูดถึงเอ็มมาในสื่อมาตลอด บอกโปรดิวเซอร์ด้วยซ้ำว่าไม่อยากให้เธอโดนกดดันเพราะคำพูดของชั้น

หลายปีก่อน เอ็มมาเคยส่งโน้ตเขียนมาบอกว่า ‘เสียใจกับสิ่งที่คุณกำลังเผชิญ’ โถวววว แกมีเบอร์โทรตรงชั้นค่ะ เขียนโน๊ตมาแค่นี้ ตอนนั้นที่ออกมาด่าชั้นต่างๆนาๆ ชั้นถูกขู่ฆ่*า ขู่ว่าจะมาข่*มขื*น ครอบครัวชั้นลำบาก ตกอยู่ในอันตรายอยู่แทบทุกวัน กับโน้ตหนึ่งประโยคมันจะทดแทนอะไรกันได้ค่ะ และตอนนั้น ตอนที่แกเขียนโน้ตมา แต่แกยิ่งโหมกระแสโดยให้สัมภาษณ์ไปทั่ว มันส่งผลต่อฉันอย่างรุนแรง ยิ่งทำให้ไฟลุกแรงขึ้นอีก การเขียนข้อความสั้นๆแค่บรรทัดเดียว แถมฝากผู้ช่วยชั้นมามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

สิ่งที่น่าเจ็บใจคือ พวกแกเสแสร้งเหมือนผ่านชีวิตมามากมาย พวกแกไม่เคยต้องใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ พวกแกยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตคนธรรมดาเป็นยังไง ทำไมไม่รู้จักเรียนรู้และไม่รู้ตัวเหรอว่าตัวเองโง่ขนาดไหน ชั้นเองตอนสิบสี่ ไม่มีเงินในกระเป๋าสักบาท ตอนชั้นเขียนหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉันโคตรจน และเข้าใจดีว่าการที่ผู้หญิงถูกลดทอนสิทธิ์มันกระทบชีวิตคนชนชั้นล่างอย่างฉันยังไง แกมันจะไปเดือดร้อนอะไรมีเงินเป็นล้านอยู่ในบัญชีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่แกกลับเลือกจะร่วมขบวนที่ทำสิ่งนี้อย่างเต็มใจรวมตัวกันด่าชั้นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน

และล่าสุดนี้ ยังมีหน้าออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่าเธอยัง ‘รักและยังห่วงใยชั้น’ ฮึ ซึ่งชั้นก็เดาว่าการด่าชั้นไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นมันคงเจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะที่ได้ด่าฉันพร้อมคนทั้งโลก ชั้นไม่เคยพูดตรงแบบนี้เลย คุณประเภทไหนกันที่ด่าฉันออกสื่อทำให้ฉันโดนด่าสารพัดสารภีแต่สุดท้ายมันบอกว่าเป็นห่วงเป็นใย หยุดตอแหลเถอะฉันไม่มีทางเชื่ออะไรแบบนี้หรอก และสุดท้ายฉันขอย้ำว่า เอ็มมา เธอเป็นคนค่ะและมีสิทธิ์เห็นต่างและพูดต่อสาธารณะ แต่อย่าลืมว่าฉันก็มีสิทธิ์เช่นกันเพราะเธอพาดพิงมาแล้ววันนี้ฉันเลือกใช้สิทธิ์นั้นที่จะฟาดเธอกลับในสิ่งที่เธอได้ทำเอาไว้ในอดีตและปัจจุบัน”

สรุปคือ J.K.Rowling ฟาดกลับแบบตรง แรง และสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ Emma Watson อย่างมาก จนหลายสื่อบอกว่า เธอสมควรโดนวิจารณ์แรงๆ แบบนี้แล้ว หลายสื่อบอกว่าJ.K. พูดจาแบบนี้มันทำกันเกินไป คนเคยร่วมงานกันมาทำไมไม่พูดด้วยกันดีดี

แล้วพวกเธอมีความคิดเห็นอย่างไร เม้าส์กัน

หมายเหตุ การแปลมีการดัดแปลงจากสำนวนที่ JK ได้เขียนไว้ เพื่อให้ความเข้าใจและอารมณ์จากการเขียนของนาง อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่จะแปลงจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย โดยใช้อารมณ์ส่วนตัวเทียบเคียงจากภาษาอังกฤษที่นางเขียน แต่ความหมายทุกอย่างยังคงเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์จร้า บทความความจริงคือยาวมากอันนี้แบบย่อนะคะถ้าสนใจอ่านแบบยาว

ทวิตเตอร์ J.K https://x.com/jk_rowling/status/1972600904185483427?s=46&t=Rr9RKim3NOGMFAx4TzA04g

บทสัมภาษณ์ของ Emma https://youtu.be/2caQ4j9oohE?si=GJ2kRwMaGwZUqena

บทความและข่าวเรียบเรียงโดยน้องอามค่ะ https://aamanusorn.com

#JKRowling #EmmaWatson #HarryPotter #ดราม่าแฮร์รี่พอตเตอร์ #ข่าวบันเทิงต่างประเทศ #RowlingVsEmma #โลกเวทมนตร์แตก #AamAnusorn

Aam Anusorn Soisa-ngim

Aam Anusorn is an independent filmmaker and storyteller with a decade of experience in the industry. As the founder and CEO of Commetive By Aam, he has directed and produced several acclaimed films and series, including the popular "Till The World Ends" and "#2moons2." Known for his creative vision and determination, Aam prefers crafting original stories that push the boundaries of traditional genres, particularly in the BL and LGBTQ+ spaces. Despite the challenges and pressures of working in a competitive field, Aam’s passion for storytelling drives him to explore new ideas and bring unique narratives to life. His work has garnered recognition and support from prestigious platforms, including the Tokyo Gap Financial Market. Aam continues to inspire audiences with his innovative approach to filmmaking, always staying true to his belief in the power of original, heartfelt stories.

https://Commetivebyaam.com
Previous
Previous

👁️ The Eye (2002) คนเห็นผี หนังสยองขวัญเอเชียที่ขึ้นหิ้งตลอดกาล

Next
Next

Boom Clap เพลงรักจาก The Fault in Our Stars ที่ทำให้ใจ “ปัง เย้!”